Drag X Pro กับ Drag S Pro มีดีต่างกันอย่างไรบ้าง

ในโลกของบุหรี่ไฟฟ้า (Vape) แบรนด์ VOOPOO ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในซีรีส์ Drag ที่เป็นที่รู้จักในวงการมากมาย เนื่องจากการออกแบบที่ทันสมัยและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าสองรุ่นจาก VOOPOO ที่ค่อนข้างได้รับความนิยม ได้แก่ Drag X Pro กับ Drag S Pro ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้มีคุณสมบัติและฟีเจอร์ที่คล้ายคลึงกัน แต่ก็มีความแตกต่างที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการของตนเอง

ในบทความนี้ เราจะมาเปรียบเทียบ Drag X Pro กับ Drag S Pro อย่างละเอียด โดยเน้นที่ความแตกต่างที่สำคัญในด้านการออกแบบ การใช้งาน และฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อให้คุณได้เห็นถึงความแตกต่างที่เด่นชัด และสามารถตัดสินใจเลือกได้ว่าอันไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด

การออกแบบและวัสดุของ Drag X Pro กับ Drag S Pro

Drag X Pro กับ Drag S Pro นั้นล้วนแต่มีการออกแบบที่มเป็นมาตรฐานทั้งสิ้น ซึ่ง Drag X Pro มีการออกแบบที่เน้นความพรีเมียมและความทนทาน ด้วยวัสดุที่มีการผสมผสานระหว่าง โลหะและหนัง ให้ความรู้สึกหรูหราและสบายมือในการใช้งาน ขนาดของ Drag X Pro ค่อนข้างกะทัดรัดและเหมาะสมสำหรับการพกพา ใช้งานง่ายด้วยการติดตั้งแบตเตอรี่แบบ 18650 หรือ 21700 (ขึ้นอยู่กับที่ผู้ใช้เลือก) ซึ่งทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้งานระยะยาว

ในขณะที่ Drag S Pro ใช้วัสดุที่คล้ายกับ Drag X Pro แต่ขนาดโดยรวมจะเล็กกว่า เหมาะกับการพกพามากขึ้น ข้อแตกต่างหลักคือ Drag S Pro ใช้แบตเตอรี่ในตัวที่มีความจุ 3000mAh ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ แต่ข้อดีคือสะดวกสบายในการชาร์จและไม่ต้องกังวลเรื่องการหาแบตเตอรี่แยกต่างหาก

ระบบการชาร์จและแบตเตอรี่ของ Drag X Pro และ Drag S Pro

ในหัวข้อนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องแบตเตอรี่ของ Drag X Pro กับ Drag S Pro ซึ่งหนึ่งในจุดเด่นของ Drag X Pro คือการใช้แบตเตอรี่ภายนอกที่สามารถเลือกใช้ขนาด 18650 หรือ 21700 ซึ่งให้ความยืดหยุ่นสูงในการเลือกใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุและความแรงที่ต้องการ นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ที่สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็ว โดยมีระบบชาร์จ Fast Charging ที่ช่วยลดเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่

สำหรับ Drag S Pro ใช้แบตเตอรี่ในตัวที่มีความจุ 3000 mAh ซึ่งสามารถใช้งานได้ดีตลอดทั้งวันตามการใช้งานปกติ การชาร์จแบตเตอรี่ทำได้ผ่านพอร์ต USB-C เช่นเดียวกับ Drag X Pro แต่ข้อดีของ Drag S Pro คือไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนแบตเตอรี่ เมื่อแบตเตอรี่ในตัวหมด ก็สามารถชาร์จใหม่ได้ทันที

พลังการสูบและฟังก์ชันสุดเจ๋งของ Drag X Pro กับ Drag S Pro

Drag X Pro กับ Drag S Pro ทั้งสองรุ่นนั้นมีฟังก์ชันการใช้งานต่างกันอย่างไร เริ่มด้วย Drag X Pro มาพร้อมกับเทคโนโลยี Gene.FAN 3.0 Chipset ซึ่งช่วยให้สามารถปรับกำลังไฟสูงสุดถึง 100 W ด้วยฟีเจอร์ที่รองรับทั้งโหมด Auto และ Manual นอกจากนี้ยังสามารถปรับการไหลของอากาศได้ผ่านการหมุนแหวนที่อยู่บนตัวเครื่อง เพื่อควบคุมลมให้เหมาะสมกับสไตล์การสูบของผู้ใช้แต่ละคน

ในขณะที่ Drag S Pro มีกำลังไฟสูงสุดที่ 80 W ซึ่งน้อยกว่า Drag X Pro เล็กน้อย แต่ก็ยังเพียงพอสำหรับผู้ที่ต้องการการสูบที่แรงและราบรื่น ฟีเจอร์ Gene.FAN 3.0 Chipset ก็ยังคงมีอยู่ในรุ่นนี้ และมีระบบการปรับการไหลของอากาศเช่นเดียวกับ Drag X Pro ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งลมให้เหมาะสมกับความต้องการของตัวเองได้

ประสบการณ์การสูบและการใช้งาน

Drag X Pro ให้ประสบการณ์การสูบที่มีความหลากหลาย ด้วยพลังไฟที่สูงกว่าทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้คอยล์ที่มีค่าความต้านทานต่ำเพื่อให้ได้การสูบที่มีความหนาแน่นของควันมากขึ้น การปรับความแรงของเครื่องสามารถทำได้ง่ายและสะดวก ส่วน Drag S Pro จะมีกำลังไฟที่ต่ำกว่า Drag X Pro แต่ยังคงสามารถให้การสูบที่นุ่มนวลและพลังไฟที่เพียงพอสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ระบบการควบคุมอากาศที่ปรับได้ช่วยให้ได้การสูบที่สบายและเหมาะสม

ความสะดวกในการใช้งานของทั้งสองรุ่น

Drag X Pro เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการปรับแต่งหรือการควบคุมเครื่องในระดับสูง เพราะสามารถปรับกำลังไฟได้มากขึ้น และการเปลี่ยนแบตเตอรี่ภายนอกช่วยให้การใช้งานยืดหยุ่นและสามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น ส่วน Drag S Pro เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการยุ่งยากในการจัดการแบตเตอรี่ เพราะแบตเตอรี่ในตัวทำให้สามารถใช้งานได้ทันทีและสะดวกในการชาร์จ

บทสรุปของ Drag X Pro กับ Drag S Pro รุ่นไหน ใช่เลย

การเลือกใช้ Drag X Pro กับ Drag S Pro ขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะการใช้งานของผู้ใช้ หากคุณต้องการความยืดหยุ่นในการเลือกใช้แบตเตอรี่และต้องการกำลังไฟที่สูงขึ้น Drag X Pro อาจจะเหมาะสมกว่า แต่ถ้าคุณชอบความสะดวกสบาย ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ และเพียงแค่ต้องการเครื่องสูบที่ใช้งานง่ายและสะดวก Drag S Pro ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ทั้งสองรุ่นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีในโลกของบุหรี่ไฟฟ้า โดยมีฟีเจอร์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือผู้ที่มีประสบการณ์มาก่อนก็สามารถเลือกใช้รุ่นที่เหมาะสมกับตัวเองได้อย่างมั่นใจ